วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2558

วันพ่อแห่งชาติ


กราบเท้าคุณพ่อ

             วันพ่อแห่งชาติปี 2558 
            พ่อเป็นผู้ชายคนแรกและคนเดียวที่หนูรักและเคารพที่สุด ต่อให้พ่อจะตักเตือนหรือต่อว่าหนูยังไง หนูก็รู้ว่าพ่อทำไปเพราะความรักและความห่วงใย อาจจะมีบางครั้งที่หนูเหนื่อยและอาจจะอารมณ์ไม่ค่อยดี เลยทำให้หนูไม่ได้คุยกับพ่อในบางครั้ง แต่หนูก็ไม่เคยโกรธพ่อเลยสักครั้ง หนูกลับเห็นความห่วงใยของพ่อมากกว่า หลายครั้งที่บางการกระทำของหนูอาจจะทำให้พ่อไม่พอใจ หนูก็อยากขอโทษพ่อในทุกๆอย่าง   ในวันพ่อปีนี้ หนูไม่ได้ออกไปรับประทานข้าวกับคุณพ่อ หรือไปเที่ยวกับคุณพ่อเลย แต่ถึงแม้ว่าหนูจะไม่ได้ออกไปข้างนอกกับพ่อ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหนูจะไม่ได้รักพ่อ สุดท้ายนี้ หนูอยากบอกว่า หนูรักพ่อ ค่ะ
    






หอมแก้มคุณพ่อ
กอดคุณพ่อ






















วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


“ต่างคนต่างมีหน้าที่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทำเฉพาะหน้าที่นั้น เพราะว่าถ้าคนใดทำหน้าที่เฉพาะของตัว
โดยไม่มองไม่แลคนอื่น งานก็ดำเนินไปไม่ได้ เพราะเหตุว่างานทุกงานจะต้องพาดพิงกันจะต้องเกี่ยวโยงกัน 
ฉะนั้นแต่ละคนจะต้องมีความรู้ถึงงานของผู้อื่นแล้วช่วยกันทำ”
           --- พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ คณะบุคคลต่าง ๆ ที่เข้าเฝ้าฯ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนพรรษา ๔ ธันวาคม ๒๕๓๓

คำสอนจากพระบรมราโชวาท
 ท่านสอนให้ประชาชนทุกคนได้รู้ว่า หากเราต้องทำงานใดก็ตามร่วมกับผู้อื่น ถึงแม้ว่าเราจะแบ่งหน้าที่ของแต่ละคนในงานนั้นเป็นส่วนๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า คนคนนั้นจะทำแต่ส่วนของตน ต้องทำให้เกี่ยวเนื่องกับส่วนของผู้อื่นด้วย มิฉะนั้นจะทำให้งานดำเนินไม่ราบรื่น ทุกคนต้องรู้หน้าที่ของผู้อื่นในการทำงาน และช่วยกันทำให้เป็นหนึ่งเดียวกัน หากต่างฝ่ายต่างทำงานแต่ส่วนของตน และไม่สนใจงานผู้อื่น ก็จะทำให้งานไม่เสร็จสมบูรณ์ตามที่ได้วางแผนไว้ อีกทั้งยังทำให้เกิดความแตกแยกในกลุ่ม แทนที่จะเกิดความสามัคคีในกลุ่มจากการทำงานร่วมกัน

การนำคำสอนจากพระบรมราโชวาทไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน
ในชีวิตจริง ทุกคนล้วนต้องประสบปัญหากับการทำงานกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นการไม่ช่วยงานของสมาชิกคนใดคนหนึ่งในกลุ่ม หรือหาข้อมูลไม่ครบถ้วนและตรงตามที่สมาชิกอื่นๆในกลุ่มต้องการ แต่ถ้าเรานำคำสอนจากในหลวงมาใช้ จะทำให้งานกลุ่มของเราดำเนินการรวดเร็วและสมบูรณ์ตามที่ต้องการ เพียงแค่ทุกคนใส่ใจในการทำงานในส่วนของตนและผู้อื่น รวมถึงการช่วยเหลือเพื่อนสมาชิกในกลุ่ม ก็จะทำให้งานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และเกิดความสามัคคีมากขึ้นจากการทำงานกลุ่ม 
หากเราเป็นคนที่ไม่ชอบทำงานกลุ่ม แต่ถ้าเราต้องทำงานกลุ่ม เราก็ต้องช่วยเหลือผู้อื่นเช่นเดียวกัน เพียงแค่ตั้งใจทำงานในส่วนของตนให้มากๆ และใส่ใจในงานส่วนของผู้อื่นด้วย แล้วมาปรับบางสิ่งให้เข้ากันทำให้เกี่ยวโยงกัน ผลงานที่ออกมาจะสวยงามแน่นอน

อยากนำคำสอนนี้ให้ใคร

ด.ช. เสฎฐนันท์  ยุคันธร  ม.2/12  #20 ---> เป็นบางครั้ง

หมายเหตุ : ห้อง12ไม่มีคนไม่ทำงานค่ะ




วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ประเพณีลอยกระทง



ชื่อ : ด.ญ. รมิตา  จุฑาสันติกุล  ม.2/12  #24

ลอยกระทงที่กรมประชาสัมพันธ์กับ
ด.ญ. ณัชชา    2/12
ด.ญ. นวรัตน์  2/12
ด.ญ. ศรุตยา  2/12
ด.ญ. วริศฐา   2/11
ด.ญ. ชยานิจ  2/11
ในวันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ.2558


[คนริมล่างสุด]

- ความสำคัญของประเพณีลอยกระทง -
ความสำคัญของประเพณีลอยกระทงมีหลายด้าน เช่น

1.ต่อชุมชน
ผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณชุมชนนั้นจะเกิดความสามัคคีในการเข้าร่วมกิจกรรมสาธารณะ และเป็นการช่วยกันสืบทอดประเพณีไทยต่อๆไป

2.ต่อครอบครัว
สมาชิกในครอบครัวจะได้ใช้เวลาร่วมกันนานขึ้น ได้ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านร่วมกัน อีกทั้งยังสร้างความสามัคคีและความรักใคร่ผูกพันธ์ในครอบครัวอีกด้วย

3.ด้านสังคม
นอกจากจะเกิดความสามัคคีแล้ว ทุกคนยังช่วยกันรักษาความสะอาดของแม่น้ำลำคลองและช่วยเก็บเศษขยะหลังจากสิ้นสุดประเพณี เหมือนเป็นการบำเพ็ญประโยชน์ต่อส่วนรวม อีกทั้งยังทำให้คนตระหนักได้ว่าควรรักษาความสะอาดสิ่งแวดล้อมด้วย

4.ด้านประเพณีและศาสนา
เป็นการเคารพและขอขมาพระแม่คงคา และเป็นการสืบทอดประเพณีของไทยที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณให้พัฒนาและสามารถสืบต่อไปในอนาคตได้ ถือว่าเป็นการทำนุบำรุงศาสนาอีกด้วย

- ร้อยกรองวันลอยกระทง -



            " ยี่สิบห้าพฤศจิกา         พวกเรามาลอยกระทง
   ขอขมาจึงนั่งลง                อยู่ที่ตรงริมลำธาร
         จุดเทียนสว่างไสว       ร่วมกันไหว้อธิษฐาน
        สืบสานแต่โบราณ             ประเพณีลอยกระทง "